วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

"บันทึกระหว่างทาง (๒)"

ผมกำหนดแผนการชั่วคราวสำหรับการใช้ชีวิตในวันนี้ไว้ว่า หลังจากส่งหญิงสาว “ลงเรือ” เพื่อข้ามฟากจาก “ท่าวังหลัง” ไปยัง “ท่าพระจันทร์” แล้ว ผมจะพยายามใช้ชีวิตให้อยู่ในขอบเขตของคำว่า “วรรณกรรม” ให้มากที่สุด




แต่ขอบเขตของวรรณกรรมสำหรับผมในช่วงนี้ จะเป็นเพียงการเสพวรรณกรรมเท่านั้น เรื่องจะให้ไปสร้างสรรค์วรรณกรรมเพื่อประดับไว้ในบรรณาพิภพ ผมรู้สึกว่าผมยัง “มือไม่ถึง” แต่กระนั้นก็ดี ผมก็ยังมีบทกวีชิ้นหนึ่งที่เมื่อผมเขียนและอ่านทวนดูแล้ว คิดว่าน่าจะส่งไปให้ท่านบรรณาธิการที่ผมชื่นชอบพิจารณา ส่วนจะผ่านด่านของท่านไปได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะไปหวั่นวิตกแต่อย่างใดเลย



ดังนั้นทันที่ที่หญิงสาวแยกไปลงเรือ ผมจึงแวะแผงหนังสือพิมพ์ ซื้อมติชนฉบับวันอาทิตย์ราคาสิบบาท และซื้อกรุงเทพธุรกิจฉบับวันอาทิตย์ราคายี่สิบบาท กรุงเทพธุรกิจฉบับวันอาทิตย์นี้จะมีเซ็กชั่นจุดประกายวรรณกรรม ซึ่งมีเรื่องสั้นที่คัดสรรโดยคุณนิรันดร์ศักดิ์ บุญจันทร์ ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นหนทางเดียวที่ผมจะได้เฉียดใกล้คำว่าวรรณกรรมในวันที่การงานบังอาจมายุ่มย่ามชีวิตผมแม้ในวันหยุด



ผมแวะซื้อข้าวกะเพราเนื้อที่ร้านปากซอย แวะจิบกาแฟกระป๋องที่ร้านอาเฮียคนคุ้นเคย ก่อนจะกลับมานั่งจ้องกองหนังสือเขรอะฝุ่นข้างฟูกนอน ผมจำได้ว่ามีจดหมายจากกองบรรณาธิการราหูอมจันทร์ซุกซ่อนอยู่ในกองหนังสือเหล่านี้ จดหมายปฏิเสธที่ช่วยกระตุ้นให้ผมอยากเขียนเรื่องสั้นที่ดีที่สุดส่งไปให้พิจารณาอีกครั้ง และในกองหนังสือเหล่านี้ ยังมีนิตยสารขวัญเรือนที่ตีพิมพ์เรื่องสั้นของผมซุกซ่อนอยู่ เรื่องสั้นเรื่องแรกในชีวิตที่เป็นกำลังใจให้ผมอยากมีเรื่องสั้นที่ได้รับการตีพิมพ์อีกครั้งเช่นกัน



ผมคิดถึงสหายทั้งหลายของผมที่เงียบหายไปจากบอร์ด  ผมเชื่อว่าพวกเขาก็คงกำลังใช้ชีวิตอยู่ในโลกของวรรณกรรมอย่างไม่รู้จักจืดจาง



ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปผจญภัยในโลกกว้าง ผมคิดว่าผมจะต้องใช้ชีวิตให้อยู่ในขอบเขตของวรรณกรรมให้มากที่สุด...เพื่อไม่ให้จืดจาง





บ่ายแก่จัด

วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒

5 ความคิดเห็น:

พระพาย กล่าวว่า...

'วรรณกรรม' คืออะไรทั่น?

DiN กล่าวว่า...

อีกแระ!
วรรณกรรมก็คือวรรณเวร
วรรณะที่มีกรรมขะรับ
เข้าใจไหม?
เข้าใจไหม?

DiN กล่าวว่า...

นี่แ่น่ะทั่น!
เมล์ทั่นเป็นอันไหนอ่าขะรับ นารินทร์ทีเอ็ชดีหรือนารินทร์ทองดี

นารินทร์ ทองดี กล่าวว่า...

แม่พรพพายครับ ไม่ทราบเหมือนกัลล์

ทวดครับ เมล์ผมใช้ทั้งสองอัน แต่ที่ใช้บ่อยคือทีเอ็ชดีครับ อันหลังนั้นนานเปิดที เพราะไม่ชอบที่คนส่งขยะมาให้

ไอซ์ กล่าวว่า...

ผมอ่านช่วงต้นมันมีคำว่า ขอบเขต ขอบเขต ขอบเขต เลยนึกสงสัยในใจว่า เฮ้ย...ป๋า เมิงวางขอบเขตอะไรของเมิงวะ วรรณกรรม วรรณเกม วรรณกุม มันมีคำจำกัดใจความที่แน่วแน่จนเราสามารถจับมันมาคลี่กางเป็นมุ้งลวดกันยุงสำหรับเราได้ด้วยหรือ(วะ)

เสือไม่ทิ้งลายฉันท์ใด ศิลปินก็คงไม่หน่ายจะทิ้งลายไว้บนโลกนี้เหมือนกันแหละป๋า

ไอ้วรรณกรรมที่ป๋าหอบมาก่อนจะหลบไปซดเครื่องดื่มจากร้านคนคุ้นเคยน่ะ หนักป่าวแว้ เผลอไปนั่งชิวๆในร้านโกปี๊ชักเดี๋ยว ชมกอผักตบโยนอยู่เหนือผิวน้ำ หายใจเอากลิ่นแม่น้ำเข้าไปสักพัก ป๋าจะคร้านจะเปิดวรรณกรรมที่ป๋าหอบมา เหไปสนใจวรรณกรรมที่ผุดอยู่ตรงหน้าก็ได้ เอิ๊ก

ไอ้ที่เราเป็นๆกันอยู่เนี่ยผมว่าเราก็ไม่ได้จืดจางไปจากโหมดวรรณกรรมอย่างป๋าว่าหรอกเชื่อดิ อ่ะไม่เชื่อถามท่านดินดูดิ จริงป่ะท่านดิน นน นน นน น

แสดงความคิดเห็น